ผู้ใหญ่บ้านแจงความจริง ปมเหตุ แม่ลูกอ่อนเครียดผูกคอ เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าคลอด ผัวเศร้ารับศพเมียเผยวันไปคลอดมีแค่ 500

จากกรณีน.ส.น้ำฝน อายุ 30 ปี ผูกคอตายภายในบ้านไม่มีเลขที่ ถนนนาคราช-กระแชงเตย ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยเพื่อนบ้านระบุสาเหตุ น่าจะมาจากความเครียดเรื่องไม่มีเงินจ่ายค่าคลอดลูก หลังจากไปคลอดลูกคนสุดท้องที่ร.พ.รัฐบาลแห่งหนึ่ง
โดยเรื่องนี้ วันที่ 30 พ.ย. ที่สภ.เปร็ง จ.สมุทรปราการ นายอำพล หนูขาว สามีน.ส.น้ำฝน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อขอรับหนังสือยืนยันจากตำรวจไปรับศพภรรยาซึ่งถูกส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ จากนั้นไปรับศพภรรยาโดยมูลนิธิร่วมกตัญญูช่วยนำศพกลับไปตั้งสวดบำเพ็ญกุศล ที่วัดนาคราช ต.คลองสวน โดยจะตั้งศพสวดอภิธรรม 3 คืนก่อนฌาปนกิจในช่วงเย็นวันที่ 3 ธ.ค. นี้
นายอำพลเปิดเผยว่า ภรรยาอาจเกิดความเครียดจากหลายส่วน ทั้งปัญหาค่าใช้จ่ายในครอบครัว รวมทั้ง 1 เดือนก่อนหน้านี้ก็ค้างชำระค่าใช้จ่ายการไปคลอดลูกคนสุดท้องเป็นเงิน 27,000 บาท ซึ่งเป็นยอดเงินที่สูง เพราะเป็นค่ารักษาอาการติดเชื้อหลังคลอดบุตร ค่าผ่าตัดการคลอด เนื่องจากไม่สามารถคลอดเองได้ และค่าทำหมัน ขณะนั้นมีเงินเพียง 500 บาท แต่ตนก็ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ร.พ.ไป ซึ่งเขาก็บอกว่าจะช่วยดูในส่วนนี้ให้ สาเหตุคาดว่าน่าจะมาจากความเครียดสะสม

นายเสนาะ แดงน้อย ผู้ใหญ่บ้าน
ขณะที่นายเสนาะ แดงน้อย ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ครอบครัวนี้เพิ่งเข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุได้ไม่กี่เดือน ก่อนจะไปคลอดลูกที่ร.พ. ในวันนั้นตนเป็นคนไปส่งเองหลังจากพักรักษาตัวก็ไปรับกลับมา ซึ่งยังถามเรื่องค่าใช้จ่ายกับร.พ. ทราบเพียงว่าจ่ายไปแล้ว 500 บาท แต่ไม่ได้มีการพูดถึงยอดรวมทั้งหมด ตั้งแต่กลับมาที่บ้านพักก็ยังไม่พบว่ามีการทวงถามหรือเรียกเก็บเงินจากทางร.พ.
ข่าวออกไปแบบนั้นอาจมาจากความคลาดเคลื่อนจากการให้ข้อมูลกับญาติบางคน จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดในขณะนี้ สำหรับครอบครัวนี้ฝ่ายผู้ตายไม่มีเอกสารใดๆ ตนยังเคยนัดพูดคุยกับสามีและผู้ตายเพื่อให้ไปติดต่อญาติฝ่ายหญิงเพื่อขอพิสูจน์สัญชาติ แต่ฝ่ายหญิงบ่ายเบี่ยงตนก็เลยไม่ได้ติดตามต่อ ส่วนรายได้นั้นเห็นว่าสามีจะออกไปรับจ้างทำงานทั่วไป ได้ค่าแรงรายวัน ล่าสุดทราบมาว่าเกิดมีปากเสียงกันเรื่องเงินไม่พอใช้

คาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุของความน้อยใจบวกกับความเครียดสะสมจนนำมาซึ่งการฆ่าตัวตาย ส่วนลูกๆ ผู้ตายเบื้องต้นทราบว่าญาติพี่น้องสามีจะรับไปดูแล แต่หากไม่มีความพร้อมและเด็กๆ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ด้อยลง ก็จะประสานไปยังมูลนิธิบ้านตะวันใหม่ ซึ่งเป็นมูลนิธิสงเคราะห์เด็กยากไร้ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านพักเข้ามาดูแลต่อไป

Cr:https://www.siamnews.com