รถพ่วง 18 ล้อ หลงเลนถนนประสานงารถเก๋งคู่รักดับคาที่ - siamnews199new

Latest

Sponsor

Saturday, November 17, 2018

รถพ่วง 18 ล้อ หลงเลนถนนประสานงารถเก๋งคู่รักดับคาที่





เมื่อเวลา 22.00 น. ร.ต.อ.วันชัย กฤชธนากร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสิงห์บุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถพ่วง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ที่บริเวณถนนสิงห์บุรี-ชัยนาท สายเก่า หน้าองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี อ.เมือง จ.สิงห์บุรี จึงรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลสิงห์บุรี อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จ.สิงห์บุรี


ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งฮอนด้าแจ๊ส สีแดง หมายเลขทะเบียน กง 4066 สิงห์บุรี ชนประสานงากับรถพ่วง ฮีโน่ สีฟ้า บรรทุกข้าว 18 ล้อ หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 81-6961 ชัยนาท ลูกพ่วงทะเบียน 81-6962 ชัยนาท กระจกด้านหน้าติดสติ๊กเกอร์ ท่าข้าว ส.สุขสันต์พืชผล (ตู่) สภาพรถด้านหน้ารถเก๋งพังยับเยินโดยตัวรถอัดติดไปถึงที่นั่งด้านหน้า


ภายในรถพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ทราบชื่อภายหลัง คนขับชื่อ นายวรชัย เพ็งถาวร (นัต) อายุ 32 ปี ส่วนที่นั่งข้างคนขับพบผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิง ทราบชื่อ น.ส.ศศิวิมล พันธุ์เกตุ (น้องปุ้ย) อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/1 หมู่ที่ 10 ต.งิ้วราย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี โดยทั้งสองเป็นแฟนกัน สภาพศพถูกอัดก็อปปี้ติดกับตัวรถ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งต้องใช้เครื่องตัดถ่างจึงสามารถนำร่างออกมาใช้เวลาประมาณ 20 นาที 
สอบสวน นายธวัชชัย ผิวแดง อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ที่ 3 ต.ย่านยาว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ผู้ขับรถพ่วงคันเกิดเหตุ นั่งรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ข้างถนน อ้างว่า ตนขับรถบรรทุกข้าวมาจาก จ.ชัยนาท เพื่อที่จะไปส่งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อขับรถมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นจุดที่กำลังมีการก่อสร้างขยายถนนในช่องทางซ้าย  มีการวางกรวยกั้นเพื่อบอกให้เลี่ยงช่องจราจรดังกล่าว  ตนจึงเลี่ยงหลบเข้ามาในช่องเดินรถทางช่องขวา  เป็นจังหวะเดียวกันที่นายวรชัย  ผู้เสียชีวิต ก็ได้ขับรถเก๋งมาในช่องเดินรถปกติของตนเอง  จึงเป็นเหตุให้พุ่งชนประสานงากันอย่างจัง  ลากรถเก๋งไปไกลกว่า 50  เมตร  เป็นเหตุให้ นายวรชัย และนางสาวศศิวิมลที่นั่งคู่มาด้านหน้าเสียชีวิตทันที 


ภาพเหตุการณ์





ด้าน นายธวัชชัย วิหารธรรมเม เล่าว่า ได้ขับรถส่วนตัวตามหลังรถพ่วงมา ตนไม่เห็นตอนรถชนกัน มารู้อีกทีตอนที่รถพ่วงจอดกลางถนนและตนแซงรถขึ้นมาจึงได้รู้ว่ามีเหตุรถชนกันแล้ว สำหรับถนนที่กำลังก่อสร้างขยายถนนอยู่นั้นมีเพียงกรวยวางกั้นจราจรไว้เพื่อบังคับให้เหลือถนนจาก 4 เลนเหลือเพียง 2 เลน มีป้ายบอกแต่ไม่มีสัญญาณไฟกระพริบหมุนฉุกเฉินเตือนให้รู้ว่าเป็นจุดเริ่มและสิ้นสุดการก่อสร้าง อาจทำให้รถที่วิ่งมาด้านซ้ายหลงเลนไม่ได้กลับมาเข้าสู่เลนปกติของตนเองเมื่อถึงจุดสิ้นสุดการก่อสร้าง จึงอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้นำตัว นายธวัชชัย คนขับรถพ่วงไปสอบสวนหาสาเหตุเพิ่มเติมอีกครั้ง ส่วนผู้เสียชีวิตทางครอบครัวได้นำศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป


ภาพเหตุการณ์


เรียบเรียงโดย ณัฏฐนารา ปานมี ทีมข่าวสยามนิวส์ จังหวัดสิงห์บุรี

Cr:https://www.siamnews.com



No comments:

Post a Comment